top of page
Search
Writer's pictureCoachTai Musicparent

Ep.257 โมโม่ หนังสือเด็กที่ผู้ใหญ่อ่านแล้วต้องคิด

เรารู้สึกว่ามีเวลาไม่เคยพอหรือเปล่า

เรากำลังใช้ชีวิตอย่างเร่งรีบตลอดเวลาหรือเปล่า

‘โมโม่’ เป็นวรรณกรรมเยาวชนที่ classic of all time ค่ะ ต่ายเคยอ่านตอนเด็ก ๆ แล้วก็เพิ่งจะมีโอกาสมาอ่านกับลูกอีกครั้ง อ่านรอบนี้คิดว่าเป็นหนังสืออีกเล่มที่มาถูกเวลา เด็ก ๆ อ่านก็แฟนตาซีสนุกดี รอบนี้อ่านแล้วมีอะไรให้กลับมาคิดค่ะ

.

โมโม่ เป็นเด็กผู้หญิงที่ไม่มีใครรู้ว่าเป็นใครมาจากไหน วันหนึ่งเธอก็มาปรากฏตัวที่ซากโรงละครโบราณของเมืองเมืองหนี่ง แล้วผู้คนในเมืองก็มาดูว่าเธอเป็นใคร มีคนเสนอให้เธอไปอยู่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าจะได้มีคนดูแล โมโม่ไม่อยากไปอยู่เพราะเคยไปอยู่แล้วหนีออกมาเพราะถูกทำโทษเฆี่ยนตีที่นั่น ผู้ใหญ่ก็มาช่วยซ่อมแซมห้องในโรงละครให้เธออยู่ได้ หาเฟอร์นิเจอร์และอาหารมาให้

.

โมโม่โชคดีที่ได้พบคนมีน้ำใจ และชาวบ้านเองก็พูดว่าโชคดีที่โมโม่เข้ามาอยู่ในหมู่บ้าน อยากให้เธออยู่ไปนาน ๆ และต่างก็แปลกใจว่าตอนที่โมโม่ยังไม่มานั้น พวกเขาอยู่กันมาได้อย่างไร จึงมีคนมาเยี่ยมเยียนโมโม่เสมอ คนที่ไม่สามารถมาหาได้ก็จะมารับโมโม่ไปหา คำพูดติดปากแทนคำทักทายก็กลายเป็น ‘ไปหาโมโม่สิ’

.

โมโม่มีความสามารถพิเศษคือ ‘การฟัง’ ใครที่ได้พูดกับโมโม่ก็จะได้ความคิดดี ๆ กลับไป โมโม่เพียงแต่นั่งฟังอย่างตั้งใจและเอาใจใส่ เธอไม่ได้ถามให้คิดได้ แต่เธอตั้งใจฟังอย่างเดียว คนที่มีปัญหาก็ตัดสินใจได้ทันที คนขี้อายก็กลายเป็นคนกล้า คนที่ทุกข์ใจก็กลับเป็นสุข คนที่น้อยเนื้อต่ำใจว่าตัวเองไม่มีความหมายเมื่อได้พูดให้โมโม่ฟังก็รู้ว่าตัวเองเข้าใจผิด โมโม่มีเวลาที่จะรับฟังผู้คนมากมาย สำหรับเด็ก ๆ ก็ชอบมาเล่นที่โรงละครกับโมโม่

.

อยู่มาวันนึงก็มีทีมผู้ชายสีเทาที่จะเข้ามาขโมยเวลาของผู้คน โดยหลอกผู้คนว่าถ้าพวกเขาสามารถประหยัดเวลาในแต่ละวันได้และฝากไว้กับธนาคารเวลาเค้าจะได้เวลาคืนพร้อมดอกเบี้ย ผู้คนจึงพยายามประหยัดเวลา จากการที่เคยมีเวลาไต่ถามสารทุกข์สุขดิบกัน พูดคุยเล่าเรื่องราวกัน ทุกคนก็ดูเหมือนจะไม่มีเวลาให้กับสิ่งเหล่านี้อีกต่อไป ต้องตั้งหน้าตั้งตาทำงาน เพื่อประหยัดเวลา และจะได้มีชื่อเสียง มีเงินเยอะ ๆ เมื่อมีชื่อเสียงและมีเงินก็ยิ่งทำให้ไม่มีเวลามากขึ้นไปอีก ผู้คนก็จะมีหน้าตาหมองคล้ำไม่มีรอยยิ้มและเสียงหัวเราะอย่างที่เคย เพราะต้องตั้งหน้าตั้งตาประหยัดเวลา และคนที่เคยมาหาโมโม่ก็ไม่มาหาเธออีก

.

วันนึงโมโม่ได้ล่วงรู้ความลับของผู้ชายสีเทา ผู้ชายเหล่านี้ไม่ใช่คนอย่างเรา ๆ และอาศัยเวลาที่มนุษย์ประหยัดได้ โดยขโมยเวลาเหล่านั้นมาเพื่อใช้ดำรงชีพ เมื่อโมโม่พยายามจะบอกความลับนี้ให้ทุกคนรู้ จึงเกิดการตามล่าโมโม่ขึ้น และโมโม่ได้พบกับเต่าตัวหนึ่งซึ่งนำทางเธอไปพบกับผู้ที่ดูแลเวลาให้กับมนุษย์ ทำให้เธอได้รู้จัก ‘เวลา’ เธออยู่ที่นั่น 1 วันแต่เป็นเวลา 1 ปีบนโลก เมื่อเธอกลับมาเพื่อน ๆ ทุกคนของเธอถูกชายสีเทาเข้าครอบงำหมดทุกคน เด็ก ๆ ก็ถูกส่งไปสถานอภิบาลไม่สามารถออกมาเล่นตามใจกับโมโม่ได้อีก ผู้ใหญ่ก็เร่งรีบทำงานเพื่อประหยัดเวลา ไม่มีใครมาหาเธอได้อีก แม้เธอจะไปหาเพื่อน ๆ ก็ไม่มีใครมีเวลาคุยกับเธออีกต่อไป โมโม่จึงเหงามาก อยากจะช่วยเพื่อนของเธอ แต่ก็เกรงกลัวอำนาจของชายสีเทา เธอจะช่วยเพื่อได้หรือไม่ ขอไม่สปอยล์นะคะ ใครอยากรู้ไปหาอ่านกันเองค่ะ

.

อ่านเรื่องนี้แล้วสิ่งที่ชวนคิดคือ เรากำลังเป็นเหมือนผู้ใหญ่ที่เป็นเพื่อนของโมโม่กันอยู่หรือเปล่า เราทำงานหนักจนไม่มีเวลาให้กับครอบครัว ไม่มีเวลาทำสิ่งที่เราชอบทำ ไม่มีเวลาในการที่จะพูดคุยกับเพื่อน ไม่มีเวลาในการดูแลตัวเอง ถ้าใช่เราจะยอมให้ผู้ชายสีเทามาขโมยเวลาของเราไปอย่างในเรื่องหรือเปล่า ถ้าเราตระหนักรู้ตัวแล้วว่าเราเป็นแบบนี้ ถ้าเช่นนั้นเราควรทำอย่างไร ต่ายอาจจะไม่ได้มีคำตอบสำเร็จรูปให้ทุกคน เพราะต่ายว่าคำตอบของแต่ะคนก็จะเป็นวิธีเฉพาะตัว อย่างน้อยถ้าเราตระหนักได้แล้วและเห็นความสำคัญของการหาคำตอบนี้ ต่ายเชื่อว่าทุกคนจะสามารถหาคำตอบให้ตัวเองได้ค่ะ สำหรับคนที่ไม่ได้ถูกผู้ชายสีเทาขโมยเวลา และเรามีเวลาเป็นของเราเอง ต่ายก็ขอแสดงความยินดีด้วยและขอให้รักษาสถานะนี้ไว้นะคะ


#เลี้ยงลูกเล่นดนตรี, #โค้ชต่าย, #Musicparent, #Music, #Parent, #Coaching, #EF, #ดนตรี, #เลี้ยงลูก, #ปรึกษา, #พัฒนา, #StrengthFinder, #ค้นหาพรสวรรค์, #โค้ชแม่ต่าย, #StrengthCoach, #Gallup, #CoachTai

Comments


bottom of page