หนังสือเล่มนี้เขียนถึงโค้ชระดับตำนาน บิล แคมป์เบลล์ โค้ชของ CEO และผู้บริหารหลายคนใน ซิลิคอนแวลลีย์เช่น สตีฟ จ๊อบส์ อดีต CEO Apple, ทิม คุก CEO Apple, ซุนดาร์ พิชัย CEO Google และอีกหลายคนหนังสือเล่มนี้เขียนโดยผู้บริหาร Google 3 ท่านที่ได้รับการโค้ชหรือที่เรียกว่าเป็นcoachee ของบิล แคมป์เบลล์ ค่ะ
.
ที่น่าสนใจอีกอย่างสำหรับหนังสือเล่มนี้คือ ผู้แปล คือโค้ชณัฏฐ์ เพิ่มทรัพย์ เป็น 1 ใน 3 คนไทยที่ได้รับการรับรองระดับ Master Certified Coach ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในวิชาชีพโค้ช จาก International Coaching Federation (ICF)
.
บิลเคยเป็นโค้ชกีฬา American Football เป็นผู้บริหารระดับสูง และเป็นโค้ชสำหรับผู้บริหาร บิลเป็นคนที่มีความรักความใส่ใจในผู้อื่นอย่างล้นเหลือกับคนทุกระดับตั้งแต่ผู้บริหารระดับสูงสุด พนักงานขายในร้าน หรือแม้กระทั่งครอบครัวของคนที่เค้ารู้จักและก็มีคนที่รักบิลมากมายเช่นกัน ในงานศพของบิลมีผู้ที่มาร่วมงานมากมาย รวมทั้งผู้บริหารใน Silicon Valley ที่เคยเป็น coachee ของบิลในงานศพของบิลนี้จึงเป็นการรวมตัวกับของ CEO และ C Level จากบริษัทชั้นนำของโลกทั้งหลาย ที่แม้จะเป็นบริษัทคู่แข่งกันก็ตาม นับเป็นปรากฏการณ์ที่ไม่เคยมีมาก่อน
.
ทำไมวัฒนธรรมการโค้ชจึงสำคัญต่อความสำเร็จของบริษัท?
อีริก ชมิดต์ ผู้เคยดำรงตำแหน่ง CEO และประธานบอร์ดของ Google ผู้ซึ่งเคยปฏิเสธการโค้ชเพราะรู้สึกเสียหน้า ที่จะให้คนอื่นมาให้คำแนะนำ
เค้าเป็นคนที่จบปริญญาเอกจากมหาวิทยาลัยชื่อดังและเป็นผู้บริหารระดับสูง แล้วโค้ชอเมริกันฟุตบอลอย่างบิลจะมาสอนอะไรเค้าได้?
แต่ปรากฏว่าบิลช่วยเขาได้เยอะมาก อีริกบอกว่า เราต้องการโค้ชตั้งแต่ต้น และควรส่งเสริมให้มีการโค้ชตั้งแต่อีรีกมาเริ่มทำงานที่ Google
.
มาลองดูตัวอย่างสิ่งที่ coachee ได้รับ (key takeaways) จากบิลดูนะคะ
- การทำงานร่วมกันนั้นเป็นการสร้างcommunity
- คนทำงานเป็นทีมและแต่ละทีมมุ่งมั่นที่จะทำสิ่งที่ดีที่สุดเพิ่อองค์กร
- โค้ชที่ดีที่สุดคือผู้บริหารของทีมนั้น แต่คุณไม่สามารถเป็นผู้บริหารที่ดีได้ หากคุณไม่ใช่โค้ชที่ดี
- คนคือรากฐานของความสำเร็จในทุกบริษัท เพื่อสนับสนุนให้คนใช้ศักยภาพอย่างเต็มที่ ผู้บริหารควรสนับสนุนให้เกียรติ และไว้ใจ
- บิลให้ความสําคัญกับความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงานมากกว่าความสัมพันธ์กับผู้บริหาร
- ควรเริ่มต้น one on one ด้วยการถามสารทุกข์สุขดิบ
- นวัตกรรมจะเกิดเมื่อผู้สร้างสรรค์มีตัวตน
- การเชิญคนออกต้องปฏิบัติกับเค้าอย่างให้เกียรติ
- #คุณสมบัติของผู้เล่นที่เหมาะสม (right player) นอกจากความฉลาดทางวิชาการ คือความฉลาดในการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆหลายๆเรื่องได้อย่างรวดเร็วและเชื่อมโยงสิ่งต่างๆเข้าด้วยกัน ขยัน ซื่อตรงมีคุณธรรม และความไม่ย่อท้อต่ออุปสรรค (grit) รับรู้และเข้าใจผู้อื่น (empathy)
- คิดถึงทีมก่อนตนเอง
- เมื่อเกิดเรื่องลบ ให้พูดปัญหาออกมาและรับมือด้วยการโฟกัสที่ปัญหามากกว่าโฟกัสที่อารมณ์
- เมื่อคุณกำลังแพ้จงกลับมามองและ commit ที่อุดมการณ์และจงนำทีมต่อ
.
สำหรับต่าย key take away ที่สำคัญคือ #คุณสมบัติของผู้เล่นที่เหมาะสมค่ะ เราใช้คุณสมบัติเหล่านี้ในการเตรียมลูกเราสำหรับการทำงานในอนาคตได้เลยค่ะ และถ้าโค้ชที่ดีที่สุดของทีมคือผู้บริหาร โค้ชที่ดีที่สุดของลูกก็คือพ่อแม่ค่ะ
.
บิลใช้ทักษะในการโค้ช คือฟัง สังเกต เติมเต็มช่องว่างในการสื่อสาร และเข้าใจช่องว่างระหว่างคน เข้าใจคน รู้ว่าอะไรจูงใจคน และรู้ว่าจะพาไปข้างหน้าได้อย่างไร
.
ถึงตรงนี้ คุณพ่อคุณแม่คงได้เข้าใจว่าการโค้ชเป็นอย่างไร และวันนี้ต่ายก็อยากชวนคุณพ่อคุณแม่มาลองรับการโค้ช เพื่อที่จะนำประสบการณ์นี้ไปเป็นโค้ชให้ลูกค่ะ ต่ายเองสนใจการพัฒนาทักษะด้านจิตใจและการช่วยเหลือผู้อื่นมาตลอดค่ะ ยิ่งมามีลูกก็ยิ่งทำให้แรงบันดาลใจยิ่งชัดขึ้น
.
หากท่านสนใจ ด้วยประสบการณ์กว่า 17 ปีในการทำงานด้านการพัฒนาศักยภาพของผู้บริหารและ talent ในองค์กร และได้นำประสบการณ์มาปรับใช้ในการเลี้ยงลูก ขอเชิญคุณพ่อคุณแม่ที่สนใจมาพูดคุยปรึกษาในการพัฒนาศักยภาพของลูก เพื่อเตรียมให้เค้าเป็นทรัพยากรที่มีค่าในอนาคต ไม่มีค่าใช้จ่ายค่ะ click link นี้ได้เลยค่ะ https://forms.office.com/Pages/ResponsePage.aspx?id=7i0gRYhAjE6OvcAfVnQOjy4U0cXAonVIoB_An5ZBNuVUNkxKMzZRRTA3UFRSTTlXTzIxVkREMUM4MC4u
Comments